พักใจพักกายที่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

วันนี้โตโยต้ากาญจนบุรี จะพาคุณไปใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแนบแน่นแบบหายใจรดต้นคอ สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายเรียกได้ว่า สโลว์ไลฟ์ สุดๆ   ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าไปหาธรรมชาติที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น กันดีกว่า…

ถ้ากรุงเทพฯ จะฝนตกหนัก แล้วรถติดขนาดนี้ คุณคะ ดิฉันจะไม่ทนค่ะ ขอลาเมืองกรุงสักแป๊ป เอาพาร่างกายไปสูดออกซิเจนให้เต็มปอด แต่ด้วยวันหยุดที่มีไม่มาก เราเก็บกระเป๋าไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพดีกว่า “กาญจนบุรี” จึงตอบโจทย์ของทั้งหมดค่ะ จะไปกาญจนบุรีแบบเดิม สังขละ แม่น้ำแคว น้ำตก เขื่อน ก็ไปมาหมดแล้ว รอบนี้จึงไปลองที่ใหม่บ้าง ตามมาเที่ยวด้วยกันค่ะ …

ขับรถออกจากกรุงเทพ ระหว่างทางเราก็แวะหาอะไรกินก่อน ที่ Farm Cafe’ de’ kalavela

แวะกินน้ำให้ชื่นใจ

อร่อยกับเครปเค้กสีรุ้ง

ได้กินของหวานละมีพลังไปกันต่อได้เลย ..

ถึงแล้วปิล็อก… ว่าแล้วก็เก็บของเข้าที่พักที่อยู่ในหมู่บ้านอีต่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ติดเหมืองปิล็อก มีตลาด ร้านอาหาร โฮมสเตย์ริมน้ำ ร้านขายของที่ระลึก หมู่บ้านชาวพม่า ใช้เวลาเดินแปปเดียวก็ทั่วแล้วค่ะ แต่เป็นสถานที่พักผ่อนได้นานๆเลย ไปเดินถ่ายรูปเล่นในหมูบ้านกันดีกว่า …

เป้าหมายต่อไปคือขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่เนินช้างศึกค่ะ …ไปค่าาาา

เจอแล้ว …. พื้นที่สีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา

พักผ่อนก่อนสำหรับคืนนี้ พรุ่งนี้เราจะพาไปเที่ยวน้ำตกกันนะคะ

เช้าแล้ว เก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันต่อเลยดีกว่า..
ว่าแล้วก็เดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศภายในหมู่บ้านอิต่องอีกสักนิดนึง

หาอะไรรองท้องเรียบร้อยแล้ว มาออกเดินทางไปยังจุดหมายของเรากันที่ “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น” กันดีกว่า

ถึงแล้วววว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เส้นทางมาน้ำตกลาดชันและแคบ เพื่อนๆขับกันช้าๆอย่าประมาทนะคะ จุดนี้เราเสียค่าธรรมเนียมอุทยาน คนล่ะ 40 บาท  รถยนต์คันละ 30 บาท เจ้าหน้าที่จะให้บัตรเข้าอุทยาน เราต้องเก็บไว้ให้ดีนะค่า

น้ำใสและเย็นมากๆค่ะ และคนก็เยอะด้วยเพราะว่าเป็นวันหยุด

ส่วนตัวชอบมากค่ะ สมบูรณ์และสวยงาม น้ำเย็นมากๆ ด้วย

ทุกคนๆได้เล่นน้ำสมใจ เล่นน้ำเสร็จแล้วก็เตรียมตัวกลับไปสู่เมืองศิวิไลกันจ้า
สำหรับทริปนี่เราเดินทางกันมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว เราถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับทริปนี้ ได้สูดอากาศดีดี หวังว่าเพื่อนๆคงจะได้มาเยือนสักครั้งนะคะ จังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเลยค่า แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ ..