14 สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี ดีต่อใจ พักผ่อนได้ทั้งปี
วันนี้โตโยต้ากาญจนบุรี จะพาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวของกาญจนบุรี เมืองที่มีแต่ความสวยงามของธรรมชาติและเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม สามารถเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว
ในวันหยุดว่าง ก็อยากพาคนพิเศษไปเที่ยวพักผ่อนกันใช่ไหมคะ กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย วันนี้เราจึงได้คัดสรรที่เที่ยวกาญจนบุรีที่ต้องไม่พลาดมาฝากกัน รับรองว่าตารางเที่ยวแน่นทั้งปีแน่นอนค่ะ
1. สังขละบุรี
สังขละบุรี เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังตั้งอยู่ที่นี่ นั่นก็คือ สะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมีเมืองบาดาล เมืองโบราณที่จะถูกจมอยู่ใต้น้ำในฤดูน้ำหลากให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของชาวมอญ นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน ได้ลองกินอาหารพื้นเมือง ได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติและบรรยากาศสุดเงียบสงบที่นี่ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง สังขละบุรีถือว่าเป็นตัวเลือกที่ใช่เลยทีเดียว
2. วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง เป็นสถานที่ตั้งของหลวงพ่อชินประทานพร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างสง่างาม โดยภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้ได้เคารพกราบไหว้มากมาย อีกทั้งรอบ ๆ วัด ยังโอบล้อมไปด้วยท้องทุ่งนา มีทิวทัศน์ที่สวยงามและอากาศสดชื่น เหมาะแก่การไปเที่ยวไหว้พระและพักผ่อนในวันหยุดค่ะ
3. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี เพราะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ของไทย สะพานแห่งนี้ทอดข้ามผ่านแม่น้ำแคว มีทางรถไฟอยู่ตรงกลางสะพาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเที่ยวชมได้ และต้องไม่พลาดรอเวลาที่ขบวนรถไฟวิ่งข้ามผ่านสะพานแห่งนี้ เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ
4. เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124
เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี มีการจำลองเมืองเก่าในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 โดยทั้งอาคารต่าง ๆ และการแต่งกายของเจ้าหน้าที่ก็ล้วนแต่ทำให้บรรยากาศเหมือนย้อนยุคกลับไปยังช่วงสมัย ร.5 อีกทั้งยังมีอาหารและขนมพื้นบ้านที่หากินยากมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ไม่เพียงเท่านั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถแต่งกายด้วยชุดไทยไปเดินเล่นกันได้ด้วย
5. หมู่บ้านปิล๊อก ทองผาภูมิ
หมู่บ้านปิล๊อก เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ภายในอำเภอทองผาภูมิ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับชายแดนพม่า ซึ่งมีความเงียบสงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม โดยเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าเขาช้างเผือก และยังอยู่ใกล้กับเนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิอีกด้วย
6. น้ำตกไทรโยคน้อย-ไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยค เป็นน้ำตกที่เราได้ยินชื่อเสียงกันมาอย่างยาวนาน ในส่วนของน้ำตกไทรโยคน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่าย ๆ เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอำเภอไทรโยคมากนัก มีรถโดยสารประจำทางไปถึง ส่วนน้ำตกไทรโยคใหญ่จะมีความสวยงามมากกว่า มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านโขดหินลงสู่แม่น้ำไทรโยค นักท่องเที่ยวสามารถที่จะล่องแพเพื่อชมคววามสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ได้
7. เขื่อนศรีนครินทร์
เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยภูเขาที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบมาก สามารถมาเที่ยวชมบริเวณสันเขื่อน หรือจะนั่งเรือเที่ยวชมธรรมชาติในเขื่อนก็ได้ หรือถ้าใครอยากพักผ่อนจริง ๆ ก็มีผู้ประกอบการเปิดบริการแพที่พักลอยน้ำให้บริการมากมาย บรรยากาศสวยงามฟินได้ใจสุด ๆ
8. จุดชมวิวป้อมปี่
จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอทองผาภูมิ เป็นบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สามารถมานอนพักกางเต็นท์ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียงอย่างเส้นทางเดินเขาสันหนอกวัว ให้ได้ไปพิชิตยอดดอยชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการกันอีกด้วย
9. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ เพราะที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ น้ำตก และถ้ำขนาดใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาเดินป่า ลอยตัวไปกับสายน้ำเพื่อเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของถ้ำต่าง ๆ ภายในอุทยาน สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด อาทิ น้ำตกคลิตี้, น้ำตกนางครวญ, ถ้ำนกนางแอ่น, ถ้ำเสาหิน, ถ้ำเวิลด์คัพ เป็นต้น
10. น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน น้ำเป็นสีเขียวมรกตใส มีความสวยงามมาก แบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 2,200 เมตร มีชื่อเรียกต่าง ๆ ไล่กันไปตั้งแต่ชั้นที่ 1-7 ได้แก่ ไหลคืนรัง, วังมัจฉา, ผาน้ำตก, อกนางผีเสื้อ, เบื่อไม่ลง, ดงพฤกษา และภูผาเอราวัณ โดยชั้นที่ 7 จะมีเอกลักษณ์สำคัญคือ บริเวณธารน้ำตกจะมีน้ำไหลลงมาตามแนวหินคล้ายรูปช้างสามเศียร หรือที่เรียกกันว่า ช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
11. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตามชั้นหินปูน มีทั้งหมด 7 ชั้น ได้แก่ ดงว่าน, ม่านขมิ้น, วังหน้าผา, ฉัตรแก้ว, ไหลจนหลง, ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า มีระยะทางรวมประมาณ 2,270 เมตร น้ำในน้ำตกจะมีสีเขียวมรกตใส สามารถมองเห็นตัวปลาในน้ำได้อย่างชัดเจน และโดยรอบของน้ำตกยังเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่น น่าเที่ยวพักผ่อน
12. นอนพักบนแพริมแม่น้ำแคว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับการนอนพักบนแพริมแม่น้ำแคว เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติทั้งสองฟากฝั่งริมแม่น้ำแควแล้ว ก็ยังจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศสุดเงียบสงบอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกิจกรรมที่น่าสนุกสนานให้ได้ทำมากมาย พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย
13. วัดทิพย์สุคนธาราม
14. อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ตั้งอยู่ที่ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อยากให้พลาด เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ก็ยังจะได้เดินเที่ยวชมปราสาทเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นในช่วงยุคลพบุรีตอนปลาย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 18-19 ซึ่งมีอายุหลายพันปีอีกด้วย อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
cr: https://travel.kapook.com
ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่น ข่าวสารดีๆ แบบฟรีๆ ได้ที่
Line@ Click > > @toyotakan1995
หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !