รีวิว Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ
รีวิว TOYOTA HILUX REVO GR SPORT
วันนี้โตโยต้ากาญก็จะพามารีวิว รถกระบะ เอาใจสายลุยแต่ก็ชอบความสปอร์ต กับ Toyota Hilux Revo GR sport ที่มากับรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว ที่โดดเด่นด้วยชุดแต่งภายนอกที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นและสายงาม วันนี้จะมารีวิวไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต รุ่น 4×4 2.8 GR sport สีขาว เกียร์อัตโนมัติ โดยราคาจะอยู่ที่ 1,309,000 บาทค่ะ
ภายนอก
มาพร้อมกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ และสีดำเมทัลลิก พร้อมตัวอักษร TOYOTA
ที่พิเศษคือมีสัญลักษณ์ GR Sport ติดมาตรงหน้ารถ เพิ่มความโดดเด่นอีกด้วยค่ะ
Hilux revo GR Sport มาพร้อมกับชุดตกแต่งซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยสีดำ
ล้ออัลลอย GR sport ขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้า สีแดง GR Sport
กระจกมองข้างสีดำเมทาลิก พร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บไฟฟ้า
มือจับสีเดียวกับตัวรถ
มาพร้อมกับสติ๊กเกอร์คาดด้านข้างและท้ายกระบะพร้อมสัญลักษณ์ GR และ GR Sport
เพิ่มด้วยสเกิร์ตรอบคัน และไฟเบรกดวงที่ 3 เพิ่มความปลอดภัย
มาพร้อมกับ กันชนหลัง สีดำเมทัลลิกและเซ็นเซอร์สัญญาณเตือนกันชนด้านท้ายรถ
เสาอากาศ Shark Fin
ไลเนอร์และสปอร์ตบาร์ดีสีดำไซน์เฉพาะรุ่น GR พร้อมไฟ LED
ภายใน
Hilux Revo GR Sport มากับแผงคอนโซลหน้า และข้างประตูสี Smoke Silver และดำเมทาลิก
มาตรชี้วัดดีไซน์เฉพาะ GR Sport
พวงมาลัยหุ้มหนัง Soft Touch เดินด้ายสีแดงและแถบสี Smoke Silver พร้อมสัญลักษณ์ GR
มาพร้อม Paddle Shift เป็นครั้งแรกใน Hilux Revo เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่
ปุ่ม push start มีสัญลักษณ์ GR Sport
แป้นเยียบแบบ sport
เบาะแบบสปอร์ต วัสดุหนังกลับ เจาะรู สีดำสลับแดง เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR
กุญแจรีโมท Smrt Key เฉพาะรุ่น GR Sport
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV (High) 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ความจุกระบอกสูบ 2,755 ซีซี กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และครั้งแรกของ Hilux Revo ที่มาพร้อม Paddle Shift
ช่วงล่าง
ที่จะมีในเฉพาะรุ่นขับเครื่อน 4 ล้อ เท่านั้น คือช็อคแอบซอร์บเบอร์แบบ Mototube สำหรับรุ่นขับเครื่อน 4 ล้อ ทำให้สามารถขับสนุก หนึบ แน่น นิ่ง สไตล์สปอร์ต พร้อมดูดซับแรงสะเทือนทรงตัวมั่นคง แม้ในความเร็วสูง
ในส่วนของระบบความปลอดภัยก็จัดมาเต็มที่เหมือนเดิมค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะรถถอย
- Blind Spot Monitor ระแบบช่วยเตือนมุมอับสายตา
- Panoramic View Monitor กล้องมอง 360 องศา
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน ประกอบด้วย ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง / เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
- Pre-Collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
- Lane Departure Alert ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
- Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทกรอบด้านได้ดีเยี่ยม
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น ป้องกันการหลุดโค้ง
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี A-TRC (Traction Control)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) กระจายแรงเบรกให้สมดุลขณะเข้าโค้ง ป้องกันอาการท้ายสะบัด
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ช่วยเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 เพื่อป้องกันการลื่นไถลลงเนินชันหรือการลื่นชั่วขณะ ขณะถอนเท้า ออกจากเบรก
- ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC (Downhill Assist Control) ลงเนินชันมั่นใจ ด้วยความเร็ว สม่ำเสมอโดยไม่ต้องเบรก
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติในสภาวะฉุกเฉิน
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ป้องกันรถเสียการทรงตัว เมื่อใช้งานลากจูงหรือเผชิญลมพัดรุงแรง
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันการล้อล็อกและการลื่นไถล ขณะเบรกกระทันหัน
หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>CLICK<<
สีและราคา
ในส่วนของราคานั้น มาในราคาเดียวเลยค่ะคือ 1,299,000 บาท สำหรับสี Attitude Black Mica
และสำหรับสี Emotional Red และ White Pearl Crystal ราคา 1,309,000 บาท
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างคะกับรีวิวที่แอดมินนำมาฝากกัน หากยังไม่จุใจสามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่คลิปนี้ได้เลยค่ะ หรือหากใครอยากลองสัมผัสคันจริง สามารถเข้ามาดูได้ที่โตโยต้ากาญจนบุรีสำนักงานใหญ่ท่าล้อได้เลยนะคะ จะมีพนักงานขายน่ารักๆคอยดูแลเพื่อนๆทุกคนแน่นอนค่ะ สำหรับรอบหน้าแอดมินจะพาเพื่อนๆไปรีวิวรถรุ่นไหนอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ