วิธีการเติมลมยางที่ถูกต้อง
ลมยางที่เหมาะสมนั้นมีผลของการขับขี่
ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ การเกาะถนน การสึกหรอ
ตลอดจนความประหยัดคุ้มค่า
ดังนั้นจึงควรเติมลมยางแต่พอดีให้เหมาะสมกับขนาดล้อ และลักษณะการใช้งาน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพียงแค่การเติมลมยางรถยนต์ให้ถูกวิธี มีข้อดีตามมาอีกหลายประการ อาทิ ยืดอายุการใช้งานรถยนต์ สามารถใช้งานยางรถยนต์ได้ยาวนานขึ้น เพิ่มสมรรถนะ สร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยในการขับขี่ ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย เมื่อทราบดังนี้แล้ว มาเรียนรู้วิธีเติมลมยางให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่กับศูนย์บริการโตโยต้า กาญจนบุรี กันดีกว่า
การเติมลมยางให้ถูกวิธีและได้ผลดี ควรเติมลมยางในขณะที่ล้อมีความเย็นอยู่
การเติมลมเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดต้องเติมหลังจากที่จอดรถพักไว้ประมาณ 30 นาที หรือในขณะที่ยางมีความเย็น เพราะเมื่อยางร้อนจะทำให้แรงดันในยางสูงกว่าปกติ จึงทำให้ค่าที่ได้จากการวัดแรงดันไม่แม่นยำ
เติมลมยางให้พอดี ไม่แข็งและไม่อ่อนไป
การเช็คลมยางเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง และต้องเติมให้ลมให้อยู่ในขนาดที่พอดี ไม่แข็งหรือไม่อ่อนไป เพราะหาก “ลมยางแข็งไป” จะง่ายต่อการระเบิดและเกิดการสึกหรอที่ผิดปกติ “ลมยางอ่อนไป” จะทำให้ยางบวมล่อนและจะเกิดการสึกหรอที่ผิดปกติเช่นกัน
* ในกรณีของผู้ที่เดินทางบ่อยๆ ควรซื้อเครื่องเช็คลมยางไว้เลยจะดีกว่า เพราะเกจ์วัดลมยางตามปั๊มน้ำมันอาจมีความคลาดเคลื่อนเพราะถูกใช้งานมาก มาตรฐานในการวัดก็จะได้ค่าที่ไม่เที่ยงตรง
เติมลมตามขนาดยางที่มาตรฐาน และคู่มือกำหนด
โดยสามารถศึกษาได้จากคู่มือของรถนั้นๆ หรือให้ดูที่เพลทการเติมลมที่ติดไว้ข้างประตูรถบริเวณคนขับ หรือยึดหลักในการวัดค่าลมยางว่ายางขนาดไหนควรเติมค่า PSI เท่าไร (ค่า PSI คือ Pound per Square Inch หรือ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) ดังนี้
– ล้อขนาด 15 นิ้ว
ถ้าความสูงของแก้มยางและความกว้างใกล้เคียงกัน ก็สามารถเติมลมเท่ากับสเปคโรงงานผู้ผลิตได้เลย ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 28-32 PSI
– ล้อขนาด 16-18 นิ้ว
ควรใช้ลมยางเพิ่มจากสเปคเดิมของโรงงานผู้ผลิตเล็กน้อย ถ้าจากเดิมอยู่ 32 PSI ให้เพิ่มเป็น 36 PSI (กรณีรถยนต์ขนาดเล็กแต่ใส่ล้อใหญ่ ควรเพิ่มสเปคจากผู้ผลิตประมาณ 2-4 PSI)
– ล้อขนาด 18 นิ้วขึ้นไป
ให้สังเกตว่าใส่กับล้อขนาดใด ต้องการความนุ่มหรือแข็ง แล้วจึงเพิ่มตามความเหมาะสมจากสเปคเดิม เช่น รถขนาดเล็ก เดิมใช้เพียง 28 PSI แล้วมีการเปลี่ยนเป็นยางขนาด 19 นิ้ว ก็ให้เพิ่มเป็น 33-35 PSI
จำง่ายๆ คือ ถ้าเป็นขนาดเดิมจากโรงงานผู้ผลิตก็ให้ยึดตามสเปคเดิมเป็นหลัก หากเปลี่ยนเป็นล้อใหญ่ขึ้นก็ให้บวกแรงดันลมยางเพิ่มขึ้นตามชนิดของยางที่ใช้ เช่น ยางที่ใช้ทางเรียบก็ให้เพิ่มจากเดิมขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3-5 PSI แต่ถ้าหากเป็นยางที่ใช้สำหรับวิ่งทางวิบาก มีหลุม ลาดชัน ก็ให้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ5-6 PSI หรือหากมากกว่านั้นควรให้ช่างผู้ชำนาญที่ ศูนย์บริการโตโยต้า กาญจนบุรี ทำการตรวจเช็คเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องแม่นยำ และควรยึดค่าตามนั้นทุกครั้งที่เติมลมยาง
หากยางรถยนต์ที่ใช้มีคุณภาพดีเพียงใด แต่ถ้าเติมลมยางไม่ถูกต้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน ก็อาจจะเสียประสิทธิภาพของยางนั้นๆ ไปอย่างศูนย์เปล่า ดังนั้นจังควรหันมาใส่ใจกันกับเรื่องพื้นฐานของรถยนต์ ด้วย 3 วิธีง่ายๆ ในการเติมลมยางให้ถูกวิธี ที่ทางศูนย์โตโยต้า กาญจนบุรี ได้แนะนำไป เพียงเท่านี้ก็จะมียางรถยนต์ที่ใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือความปลอดภัย แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
หากลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเติมลมยางรถยนต์
สามารถโทรขอคำปรึกษาจากทางศูนย์โตโยต้า กาญจนบุรี ได้ที่เบอร์ 034-540-789 หรือ www.toyotakan.com
คุณสามารถติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับรถได้แบบฟรีๆ ที่
Line@ Click > > @toyotakan1995
หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !