เคล็ดลับขับขี่ทางไกล ให้ปลอดภัยทุกเส้นทาง
ก่อนเดินทางไกล ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อมีความพร้อมทั้งคนและรถแล้ว มาร่วมออกเดินทางกันได้เลย
การขับรถทางไกลอย่างปลอดภัยทั้งในช่วงเทศกาล หรือช่วงเวลาปกติ ไม่เพียงขึ้นอยู่กับการเตรียมรถยนต์ให้มีความพร้อมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพร้อมของผู้ขับขี่อีกด้วย ดังนั้นก่อนเดินทางไกล ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อมีความพร้อมทั้งคนและรถแล้ว มาร่วมออกเดินทางกันได้เลย
1. ระมัดระวังรถจักรยานยนต์และจักรยานเป็นพิเศษ
รถจักรยานยนต์และจักรยาน คือ ยานพาหนะที่พบเห็นบ่อยครั้งในต่างจังหวัด ผู้ขับขี่ควรให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ บางครั้งทิศทางการเคลื่อนที่ของรถจักรยานยนต์และจักรยานอาจอยู่เหนือความคาดหมาย ควรลดความเร็วลงเมื่อเข้าสู่ย่านชุมชนเพื่อความปลอดภัย
2. รักษาทัศนวิสัยเมื่อขับขี่ในช่วงกลางคืน
ผู้ขับขี่รถบางคนชื่นชอบการขับรถในช่วงกลางคืนมากกว่า เนื่องจากรถน้อยกว่าและอากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนกลางวัน แต่ความเสี่ยงก็มีมากกว่าเช่นกัน เนื่องจากทัศนวิสัยบนท้องถนนยามค่ำคืนนั้นน้อยกว่า ขณะเดียวกัน บนถนนบางเส้นทางอาจไม่มีไฟส่องสว่างด้วย ผู้ขับขี่ควรขับรถให้ช้าลงกว่าปกติ ซึ่งรถที่มีระบบตัวช่วยดีๆ เช่น ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว, ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า มีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้ขับขี่ ว่าจะมีทัศนวิสัยที่ชัดเจนไปจนถึงจุดหมาย
3. ไม่ตื่นตระหนกเมื่อยางระเบิด
ถึงแม้ผู้ขับขี่จะตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ แต่เหตุสุดวิสัยสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยางแตกหรือระเบิดเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ผู้ขับขี่ไม่ควรตื่นตระหนัก แต่ควรควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร ลดความเร็วด้วยการค่อยๆ แตะเบรกอย่างแผ่วเบาพร้อมกับประคองรถเข้าจอดข้างทาง ซึ่งผู้ขับขี่จะมั่นใจมากขึ้น หากรถที่ใช้มีระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง
4. ลดความเร็วเมื่อขับขี่บนเส้นทางไม่คุ้นเคย
การขับขี่บนเส้นทางไม่คุ้นเคยอาจทำให้ผู้ขับขี่มีการตัดสินใจช้าลง หรือมีความลังเลไม่แน่ใจว่าจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด ควรลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัย หรือตรวจสอบเส้นทางให้แน่ชัดก่อนออกเดินทาง ในปัจจุบันมีฟังก์ชั่นระบบนำทางรถยนต์ (Navigation) สามารถบอกสถานที่ที่น่าสนใจ (Point of Interest) พร้อมกับให้ข้อมูลเพื่อสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้วางแผนการเดินทางในสภาพการจราจรที่ติดขัดได้ล่วงหน้า
5. พักคนและรถเป็นระยะ
การขับขี่ทางไกลมากกว่า 200 กิโลเมตรขึ้นไป ผู้ขับขี่ควรหยุดพักเป็นระยะเพื่อผ่อนคลายร่างกายและให้รถได้พักด้วย ระหว่างนี้ ถ้าหากตัวรถมีระบบที่ทันสมัย เช่น MG ผู้ขับขี่สามารถทำการตรวจวิเคราะห์รถยนต์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ตรวจสอบความผิดปกติเบื้องต้นของเครื่องยนต์ได้เองง่ายๆ รวมถึงการทำงานของระบบความปลอดภัย เช่น ระบบเบรก และถุงลมนิรภัยผ่านแอพพลิเคชั่น
6. ระมัดระวังถนนลื่นหรือทางโค้งมากเป็นพิเศษ
ถนนลื่นและทางคดเคี้ยวเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ทางไกล ควรลดความเร็วลงเพื่อการควบคุมรถอย่างเต็มประสิทธิภาพ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP – Electronic Stability Program) และระบบช่วยควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control) ในยนตรกรรมชั้นเลิศ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้อีกระดับ
7. ขับรถขึ้นหรือลงเขาด้วยเกียร์ต่ำ
ผู้ขับขี่ที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวบนภูเขาหรือดอยสูง การขับรถขึ้นหรือลงทางลาดชันควรใช้ความเร็วต่ำ เพื่อป้องกันปัญหาเบรกหรือคลัตช์ไหม้ ซีดานสมรรถนะสูง
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในหน้าเทศกาลอาจต้องเผชิญปัญหารถติดหรือการจราจรคับคั่งบนดอยสูง ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill Start Assist System) และระบบป้องกันรถไหลเมื่อต้องขึ้นทางลาดชัน (Auto Hold) ใน NEW MG6 จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้จนถึงจุดหมาย
ภาพ : https://pixabay.com/en/iceland-toyota-4×4-adventure-track-656469/
คุณสามารถติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับรถได้แบบฟรีๆ ที่
Line@ Click > > @toyotakan1995
หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !