วิธีขับรถขึ้นเขา ลงเขาอย่างเซียน!
วิธีที่สามารถเรียนรู้และฝึกหัดได้เอง ขอให้ท่านผู้อ่านเดินทางท่องเที่ยวบนเขาอย่างมีความสุข
ช่วงฤดูหนาวผู้คนมากมายก็มักจะไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสัมผัสอากาศเย็นและชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บนดอยหรือเขาสูง ที่ต้องขับรถขึ้นไปบนเขาที่มีความชันมาก ถ้าหากไม่มีความชำนาญในการขับรถ ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ วันนี้โตโยต้ากาญจนบุรีจึงมีเคล็ดลับในการ ขับรถ ขึ้นเขา-ลงเขา มาฝากกันค่ะ
1. ขาขึ้นควรใช้เกียร์ต่ำ
ทางขึ้นเขาจะมีความชันมาก รถจึงต้องการแรงมากกว่าการขับรถบนถนนปกติทั่วไป และเกียร์ที่สามารถใช้ในการขับรถขึ้นทางชันได้ ก็มีเพียงแค่เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น (เกียร์ 1 และ 2 มีแรงมากกว่าเกียร์อื่น ๆ ) และหากรู้สึกว่ารถเริ่มไม่มีแรง ก็ให้ลดเกียร์ต่ำลงมาอีก เช่น ขับมาเกียร์ 2 แล้วรถเริ่มอืด ๆ ให้ลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 1 แทน จะทำให้รถมีแรงมากขึ้นครับ ส่วนรถเกียร์ออโต้ ให้เปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่ง “L”
2. ขาลงให้ใช้เกียร์ต่ำเช่นกัน
สำหรับการขับรถขาลงเขา ก็ควรใช้เกียร์ต่ำเหมือนกับขาขึ้นเขานะครับ แต่ขาลง รถไม่ต้องการแรงมากเท่าไหร่ แค่ต้องการแรงฉุดเพื่อให้รถวิ่งช้าลง ซึ่งการใช้เกียร์ต่ำวิ่งลงทางชันนั้น จะทำให้เครื่องยนต์มีแรงฉุดมาก เคลื่อนที่ได้ไม่เร็ว ทำให้สามารถเบรกและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจครับ อีกทั้ง ทางลงเขาควรอยู่ที่เกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้นครับ และห้ามดับรถหรือใช้เกียร์ว่างลงเขาเด็ดขาด!
3. ระวังทางโค้ง
ปกติแล้วทางขึ้นเขาจะตัดถนนเป็นทางโค้งคดเคี้ยวไปมา ยิ่งภูเขาสูงมากเท่าไหร่ ถนนก็ยิ่งคดเคี้ยว เพราะทางโค้งใช้สำหรับลดความลาดชันของพื้นที่ให้รถสามารถขับขึ้นไปได้ ซึ่งทางโค้งบนเขานั้น มักจะมีต้นไม้บังถนนอีกฝั่ง เวลาเข้าโค้งจึงควรขับชิดซ้ายเอาไว้ครับ เผื่อมีรถอีกฝั่งแซงมาในทางโค้งจะได้หลบหลีกได้ทัน
4. ห้ามแซง
เนื่องจากถนนบนเขานั้นมีความแคบและคดเคี้ยวมาก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้ชัดเจน เพราะถูกทางโค้งหรือต้นไม้บดบัง จึงไม่ควรขับแซงในเขตห้ามแซง หรือไม่ควรขับแซงในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นรถอีกฝั่งได้ เนื่องจากอุบัติเหตุบนเขาส่วนใหญ่ก็มาจากการแซงทางโค้ง หรือแซงโดยที่มองรถอีกฝั่งไม่เห็นนี่แหละ
5. คำนวณระยะเบรกในทางลง
สำหรับทางลงเขาจะซึ่งมีความชันมาก รถจะต้องการระยะเบรกเพิ่มขึ้นยาวกว่าปกติ เนื่องจากความลาดชันของพื้นที่และน้ำหนักของตัวรถจะมีผลให้รถเบรกได้ช้าลง ดังนั้น เวลาคุณเบรกขณะอยู่บนทางลงเขา ควรคำนวณระยะเบรกให้เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้สามารถเบรกได้อย่างเหมาะสม และไม่ไปชนรถคันข้างหน้าครับ
6. เร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ
การเร่งเครื่องขึ้นเขาเราต้องเร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถมีกำลังขึ้นเขาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในทางชันยาว ๆ ควรเร่งต่อเนื่องกันไป เพราะหากเร่ง ๆ หยุด ๆ จะทำให้รถเสียกำลังและไหลลงมาได้ ซึ่งอันตรายมาก
7. แตะเบรกเป็นระยะ
ในทางลงเขา แรงฉุดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องมีการแตะเบรกช่วยด้วย เพื่อชะลอความเร็วของรถ แต่อย่าแตะเบรกแช่ยาวนะครับ เพราะจะทำให้เบรกไหม้และเบรกไม่อยู่ ซึ่งอันตรายมาก ๆ ทางที่ดีเราควรแตะเบรกในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้น และควรตรวจสอบเบรกรถยนต์ของท่านก่อนออกเดินทาง ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและพร้อมใช้งาน
ทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นวิธีที่สามารถเรียนรู้และฝีกหัดได้เองนะคะ และขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวบนเขาอย่างมีความสุขนะคะ ทั้งนี้ หากท่านผู้อ่านสนใจข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์และวิธีการดูแลรถยนต์ ก็สามารถติดตามต่อได้ที่ โตโยต้ากาญจนบุรี ค่ะ
ที่มา : http://www.moneyguru.co.th
ภาพ : https://pixabay.com/en/mountain-road-winding-road-travel-1556177/
คุณสามารถติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับรถได้แบบฟรีๆ ที่
Line@ Click > > @toyotakan1995
หากบทความนี้ดีมีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่มแชร์ด้านล่างให้เพื่อนๆของคุณกันนะคะ !